ศาสตร์แห่งสุสาน (ฮวงซุ้ย)


  ในอดีตโบราณนั้น ฮ่องเต้ในประเทศจีนในแต่ละยุคสมัยนั้นจะมีการสร้างสุสานของตัวเองขึ้นเพื่อให้ตัวเองนั้นมี บารมี เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นนิรันดร์ หลังจากความตายหรือได้ลุล่วงไปแล้ว แต่ในปัจจุบันนี้การสร้างสุสาน จะใช้เพื่อเป็นที่เก็บฝังร่างของบรรพชนให้มีที่อยู่อย่างสงบสุขตลอดไป ซึ่งถือได้ว่าที่ตรงนี้จะเป็นตัวเชื่อมพลังในสายเลือดDNA เดียวกัน เพราะเหตุนี้นั้นทำให้สุสานของบรรพบุรุษจึงสามารถบ่งบอกได้เลยว่า ครอบครัว อนาคต พี่น้อง สุขภาพ ความเจริญมั่นคงของลูกหลานนั้นจะเป็นอย่างไร ซึ่งการเลือกสุสานรวมไปถึงการออกแบบวางสุสานที่ดีนั้นจะต้องใช้เวลาพอสมควรบางครอบครัว บางตระกูลจะใช้เวลานานมากเป็นเดือน เป็นปีในการหาทำเลที่ดี ชัยภูมิที่ดีในการสร้างและจำเป็นจะต้องเชิญชินแสที่มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านนี้โดยตรงมาเป็นผู้ช่วยหาทำเล และประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งปรมาจารย์เคยพูดไว้ว่า (ถ้าตระกูลดี ลูกหลานดี ก็แสดงว่ามีสุสานที่ดีคอยส่งเสริมลูกหลาน) ซึ่งต้องยอมรับว่าในอดีตนั้น คนให้ความสำคัญมากในเรื่องของการสร้างสุสาน บางครอบครัวถึงขนาดต้องยอมขายของ ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่นั้น เพื่อนำเงินมาทำศพ และหาที่ฝังร่างให้แก่บรรพชน เพื่อให้ได้สุสานที่ดีเพื่อที่จะส่งผลที่ดีไปถึงลูกหลานได้ จะส่งผลให้ลูกหลานนั้นมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็เป็นเหตุมาจากแรงและพลังของการทำสุสานทั้งสิ้น  แต่ถ้าสุสานมีการวางในพื้นที่ที่มีชัยภูมิที่ไม่ดี มีสภาพแวดล้อมของภูเขาที่ไม่ดี ไม่เป็นมงคล มีถนนอุโมงค์ตัดผ่าน หรือมีการระเบิดภูเขาโดยรอบอยู่บ่อย ๆ ก็จะทำให้ส่งผลแก่ลูกหลาน ก็อาจจะมีปัญหาเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ตามมาได้ ซึ่งสุสานก็สามารถบ่งบอกได้ว่าจะส่งผลกระทบกับลูกหลานเพศไหน ชาย หรือหญิงได้...

 
 

 

ลูกหลานคนจีนในอดีตนั้น จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ๆ เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องราวที่มีความสำคัญกับตระกูลและได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้ใหญ่ และบรรพชน ส่งทอดต่อกันมาต่อครอบครัวเป็นรุ่นต่อรุ่น

  ซึ่งวิชาสุสานนี้ผมได้เรียนและศึกษามาเป็นระยะเวลายาวนานมากและได้ท่าน อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้ ท่านถือเป็นผู้ที่ริเริ่มทำให้วิชาฮวงจุ้ยเจริญพัฒนาเป็นวงกว้างทั่วประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นผู้ที่สร้างฮวงจุ้ยที่เยอะที่สุดในประเทศไทย และสามารถพูดได้ว่าน่าจะเยอะที่สุดในโลกตลอดสี่สิบปี

โดยอาจารย์ท่านได้บอกไว้ว่า การจัดทำสุสานนั้นก็เพื่อประโยชน์ดังนี้

1. เพื่อตัวเอง  เมื่อเวลาเราตายวิญญาณจะมีที่ไปกับร่าง เมื่อร่างมีสุสาน วิญญาณก็จะมีที่ไป มาอยู่ที่หลุมตลอดกาล  คนสมัยก่อน ก่อนตายทุกคนแม้แต่ฮ่องเต้ ต้องเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เพื่อที่ตายไปวิญญาณของตนเองก็จะได้มีที่อยู่ที่แน่นอนก็จะทำให้วิญญาณมีความสงบสุขตลอดไป 
2. เพื่อลูกหลานในอนาคต เพื่อที่จะได้สบายใจว่าลูกหลานจะได้ไม่ลำบากและ จะได้ไม่ต้องดิ้นรนเพื่อหาที่ ถ้าเลือกที่ดีก็จะช่วยส่งเสริมให้ลูกหลานเจริญรุ่งเรืองมั่นคง
3. ตอนมีชีวิตอยู่ควรทำให้เสร็จ เพื่อที่ลูกๆจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันหรือกลัวว่าต่อไปใครจะทำให้ใครดี หรือใครจะไม่ทำดี 

  และนี่คือเหตุผลที่ว่าคนจีนรุ่นเจ้าสัวทุกบ้านเขาจะทำไว้ก่อน ไม่ใช่เสียชีวิตแล้วค่อยมาทำ อันนี้ถือว่าผิดอย่างมาก และพอตายแล้วยังไม่มีที่ฝังหรือโลงก็ต้องนำไปวางไว้ที่เก็บรวมโดยที่ ยังหาที่ดินไม่ได้คนโบราณเขาก็จะหัวเราะกัน  อีกประเด็นนึงการที่ไม่มีที่พอตอนตายต้องรีบหาที่ที่ดีจะยากมากและถ้าเร่งมากเกินไปเจอคนที่ไม่ได้ตั้งใจหา หรือไม่มีความรู้จริงในเรื่องสุสาน ซึ่งถ้าทำผิดต่อไปก็จะไม่มีคนมาไหว้ ซึ่งผมเจอมาหลายตระกูลมากในประเทศจีน

image

สุสานที่ดีจะต้องมีองค์ประกอบดังนี้

1. ตำแหน่งชัยภูมิดีมีพลัง ลักษณะของภูเขา (ร่างกายของมังกร)
2. หิน/แนวหิน    (กระดูกของมังกร)
3. พื้นดินที่ตั้ง     (เนื้อของมังกร)
4. สายน้ำที่ไหล   (เลือดของมังกร)
5. ต้นหญ้า ต้นไม้ (ผิวของมังกร)

  ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบ ตัวแทนที่มีความสำคัญของพลังชี่ ที่ไหลเวียนหล่อเลี้ยงให้มีสภาพชีวิต ซึ่งเราจะใช้คำว่า “มังกร”เป็นตัวแทน (จีนจึงใช้สัญลักษณ์นี้เป็นตัวแทนของตนเอง) นอกจากนี้เราจะต้องรู้อีกว่าเคล็ดลับในการมองสุสานที่ดีนั้นต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

1. ต้องดูที่มาของกระแสพลัง ว่ามีภูเขา ที่สูง แนวสันเขาเคลื่อนตัวมายังจุดที่เราเลือกหรือไม่
2. เวลามองย้อนกลับไปนั้น ด้านหน้าสุสานควรจะเปิดโล่ง สบายตา มองไปได้ไกลมีภูเขาไกล ๆ ที่ดูแล้วเป็นรูปลักษณ์ที่เป็นมงคลหรือไม่
3. ตำแหน่งด้านซ้ายและด้านขวานั้น (แขนมังกร) นั้นมีภูเขาโอบล้อมรอบสมบูรณ์หรือไม่
4. เวลามีฝนตกหนักมาก ๆตำแหน่งด้านหน้าที่นั้นสามารถชะลอการไหลของน้ำได้หรือไม่
5. ต้นไม้และธรรมชาติรอบ ๆ มีสีเขียวสดใส  ดูแล้วสดชื่นมีชีวิตชีวา อุดมสมบูรณ์หรือไม่
6. มีหินตำแหน่งด้านหลัง หรือในตำแหน่งซ้ายขวาโดยมีลักษณะที่เป็นมงคลไม่มีแหลมคม
7. มีจุดที่กำหนดเสียงสะท้อนก้องกังวานหรือสะท้อนมากกว่าจุดอื่น ๆ หรือไม่
8. อุณหภูมิบริเวณตำแหน่งที่ตั้งนั้นควรจะอุ่นกว่าปกติ(ชี่)

image

รูปสุสานที่อยู่ในชัยภูมิที่ดีและถูกต้องสมบูรณ์

  ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักการง่าย ๆเบื้องต้นที่ควรศึกษาและสามารถนำไปใช้ได้จริงในการเลือกที่ตั้งของสุสาน นอกจากนี้ยังได้รวบรวมเอาหลักการสังเกต(ฮวงซุ้ย)สุสานที่มีปัญหามาฝากกันด้วย ซึ่งมีดังนี้

1. ป้ายหน้าสุสานมีสีดำ หมองคล้ำ มองแล้วไม่สดใส หรือ มีรอยแตกแยกหรือไม่
2. แขนของสุสาน (ตำแหน่งซ้ายขวา)นั้น เกิดรอยแตกร้าว อย่างลึกและลากยาว
3. ภูเขาบริเวณด้านหลังไร้ภูเขาสนับสนุน หรือเป็นเนินถมเองขึ้นมา
4. สภาพดินมีปัญหาแตกร่วน ปลูกต้นไม้ไม่ขึ้น ดูแล้วพลังไม่ดีไม่อุดมสมบูรณ์
5. มีรากไม้ใหญ่ชอนไชขึ้นมา มีปลวกเข้าไปทำรังในบริเวณด้านในพื้นที่สุสาน
6. พลังของแนวภูเขา หรือสันเขาวิ่งแรงและเร็วจนเกินไปจะส่งผลกับลูกหลาน
7. ภูเขาด้านหน้า(บริเวณด้านหน้านั้น)มีสภาพแวดล้อมไม่ดี เช่น มีเมรุ ปล่องควันจากโรงงาน สันของหลังคา จั่ว มุมแหลม พุ่งปะทะ เข้ามาใส่บริเวณสุสานหรือไม่
8. รอบ ๆตำแหน่งของสุสานมีภูเขาที่มีรอยแตก หรือโดนทำลาย ระเบิด

  ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นจุดสังเกตที่ได้นำมาฝากกัน ให้ทุกท่านได้ศึกษาเป็นความรู้เพื่อสามารถนำไปใช้ได้ในการสังเกตเบื้องต้น ว่าสุสานของบรรพบุรุษของพวกท่านนั้นมีปัญหาหรือไม่   อย่างไร

 

image

ทำไมทุกครอบครัว สมาชิกถึงต้องเตรียมสุสานเอาไว้?

  ถ้าวันหนึ่งเกิดจากไปอย่างกะทันหัน หรือจากไปก่อนวัยอันควรโดยที่ยังไม่ได้เตรียมที่อยู่เอาไว้ให้ตัวเองหรือบรรพบุรุษนั้น ก็อาจจะต้องได้ไปใช้สถานที่ที่เรียกว่า “โลงไร้หลุม” ซึ่งคำนี้นั้นถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติแก่บรรพชนเป็นอย่างมาก ครอบครัวใดที่เป็นแบบนี้ก็จะถือว่าลูกหลานไม่มีความกตัญญูต่อบรรพชนผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
  เวลาจะหาตำแหน่งให้ได้ในที่ที่ดีนั้น จำเป็นจะต้องใช้เวลานานพอสมควร ในการเตรียมหาบางครอบครัว บางตระกูลต้องใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี ข้ามปีกันเลยทีเดียว โดยจะต้องมีผู้ที่รู้และมีความสามารถทางเรื่องนี้โดยตรงมาเป็นผู้ที่แนะนำ เพื่อช่วยหาตำแหน่งที่ดีที่สุดให้กับตระกูล
  เป็นการช่วยส่งเสริมลูกหลานอย่างแท้จริง และ  ช่วยต่ออายุสำหรับผู้ที่ทำตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
  สร้างความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในครอบครัว ให้มีจุดยืนที่มั่นคงถาวรและในทุก ๆปีเมื่อมีเทศกาลการไหว้ หรือ พบปะกัน ก็จะเป็นการรวมตัวของสมาชิกภายในครอบครัวอีกด้วย

  ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า คนที่มีความสามารถ เป็นใหญ่เป็นโต มีชื่อเสียง บุคคลสำคัญ ๆระดับประเทศนั้นก็ล้วนแต่เป็นลูกหลานคนจีนด้วยกันทั้งสิ้นและมีสุสานประจำตระกูลหรือมีการสร้างหอประจำตระกูลทั้งสิ้น  อาทิเช่น ท่านบรรหาร ,ท่านชวน,ท่านทักษิณ,ท่านสมัคร เป็นต้น และอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ สายทหาร ข้าราชการ นายทหารใหญ่ ก็มักจะมีการสร้างห้องเก็บอัฐิธาตุของบรรพบุรุษ ของสายเลือดและวงศ์ตระกูลของตัวเอง (สุสานบรรพชน ประจำตระกูล) มักจะมีไว้ที่อาคารส่วนตัว วัด สร้างหออัฐิรวม ซึ่งถ้าได้ชัยภูมิ และองค์ประกอบที่ดีก็มักจะส่งผลต่อลูกหลาน ให้เป็นข้าราชการที่มีความยิ่งใหญ่ส่งต่อกันรุ่นต่อรุ่นได้เหมือนกัน……. (นี่คือเคล็ดลับที่นำมาเล่าสู่กันฟัง)

ทำไมต้องมีสุสาน?

  การที่เรามีสุสาน หรือมีการจัดเตรียมสุสานไว้นั้น ก็เปรียบเสมือนกับการสร้างทรัพย์สินและอาณาจักรให้กับตัวเราเองและครอบครัว ลูกหลาน ซึ่งครอบครัว ตระกูลไหนที่มีการจัดสร้างทำสุสานที่ดีนั้น ตระกูลก็จะไม่สิ้น ลูกหลานก็จะเจริญรุ่งเรือง ฐานของตระกูลจะมั่นคงเจริญงอกงามออกไปเรื่อย ๆ อาทิเช่น

ภาคเหนือ (หยิน) จะมีภูเขาที่ค่อนข้างโดดเด่น สง่างาม มีความอ่อนช้อยมาก ลูกสาวก็จะเยอะ มักจะแต่งออก แต่ในบางกรณีข้าราชการในเมืองใหญ่ๆ นั้น ก็มักจะมีการสร้างบ้านไว้ที่ภาคเหนือเพื่อที่จะรับพลังที่ดีและส่งเสริมต่อครอบครัวเช่นเดียวกัน
ภาคใต้ (หยาง) จะมีภูเขาเยอะ และมีรูปลักษณ์ของเนินเขาที่ดูแล้วมีความแข็งแรง รูปลักษณ์ของหินค่อนข้างดุดัน มีเนินย่อม ๆ ต่อ ๆกัน ปัจจุบันภาคใต้นั้น ประชาชนมีลูกหลานเยอะ และเป็นข้าราชการเยอะมาก ๆ เช่น ทนาย ผู้พิพากษา ทนาย อัยการ

เมื่อไหร่ที่เราควรจะทำสุสานเพื่อเสริมพลัง เตรียมเอาไว้...
1. ตอนที่พ่อแม่แข็งแรงปกติ สามารถทำเตรียมไว้ต้องใช้เวลาทำแรมปี การดูฤกษ์ที่ดีที่สุดในสี่ปีอาจมีแค่ไม่กี่วัน เมื่อได้ฤกษ์ที่ดีที่สุดก็จะส่งเสริมพลังได้รวดเร็วและสมบูรณ์มาก ๆ
2. เมื่อลูกชายแต่งงาน คนจีนมีคำนึงว่า成家 ลูกชายก็จะมีหลานสมาชิกใหม่ แต่ถ้ามีสุสานที่ดีรับพลัง ต้นตระกูลมีที่ดีส่งเสริมลูกหลานหน้าตาราศีที่ออกมาก็จะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นหลายบ้านมีทรัพย์สินมหาศาลแต่ไม่มีลูกหลานชายสืบทอดตระกูล  สุดท้ายที่ไปไล่ดูไม่มีสุสานต้นตระกูลส่งพลังต่อพลังหมดที่รุ่นนี้เป็นสิ่งน่าเสียดายมาก ๆ  จริง ๆการทำสุสานที่ดีนั้น ดีกว่าไปทำเด็กหลอดแก้วมาก ๆเพราะการทำสุสานนั้นเป็นการรับพลังธรรมชาติอีกทางหนึ่งซึ่งมีมาเป็นร้อยเป็นพันปีและถาวร ซึ่งจากสถิติถ้าทำถูกต้องภายในสิบสองเดือนก็จะมีลูกอย่างเร็วหรืออย่างช้าไม่ถึงสามปีอาจจะมีถึงสองคน สมาชิกใหม่ที่เพิ่มขึ้น

image

3. เมื่อดวงชะตาตก ใครที่ธาตุหรือดวงอ่อนก็จะใช้ทิศทางและฤกษ์ยามมาเกื้อหนุนแก้ไข เสริมตัวที่ขาดใช้พลังฟ้าและพลังดินมาช่วยก็จะสามารถพลิกชะตาได้
4. เมื่อเจ็บป่วยหนัก เนื่องมาจากธาตุและภูมิดวงอ่อนหรือตกบทบาทที่ไม่ดี การทำสุสานก็เหมือนเป็นการแก้เคล็ดและดึงพลังที่ดีเสริมเข้ามาอีกที  ซึ่งจะต้องปรึกษาชินแสที่มีความเชียวชาญและมีความเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเจอคนที่ไม่มีความรู้ก็อาจจะโดนหลอกหรือทำโดยขาดความรู้ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก
5. เมื่อมีการแบ่งมรดกสมบัติให้ตระกูล ก็จะต้องเตรียมสุสานในอนาคตให้เรียบร้อย ลูกหลานแต่ละครอบครัวก็จะแตกหน่อ ออกไปทำให้จะมีความเจริญเติบโตอย่างมั่นคง
6. เมื่อไม่รู้จะเริ่มต้นตั้งตัวอย่างไร ควรหาที่ดีตั้งหลักปักฐานที่ฮวงจุ้ยที่ดีก็จะส่งผลให้ลูกหลานประสบกับความเจริญรุ่งเรือง พบคนที่ดีเกื้อหนุนได้ มีโอกาสต่าง ๆ เข้ามาให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
7. ต้องการให้ตระกูลเจริญอย่างมั่นคง เป็นการถ่ายทอดมรดกและอำนาจให้ลูกหลานสืบทอดธุรกิจให้เจริญสืบไปอย่างมั่นคง ซึ่งควรจะมีสุสานที่ดีเพื่อเก็บพลัง ลูกหลานก็จะเก็บทรัพย์สมบัติธุรกิจให้อยู่ได้ตลอดไป
8. เป็นสัญลักษณ์ของวงศ์ตระกูลที่ถาวร แม้จะเสียทุกอย่างสิ้นไปแต่ยังมีที่พึ่งสุดท้ายของลูกหลานที่เหลืออยู่ สมัยสงครามกวาดล้างในจีนคำนี้เป็นจริง “เป็นตัวแทนความรักและความมั่นคงของคู่ชีวิตที่ถาวรและจะฝังด้วยกัน เป็นแบบอย่างให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อไป”
9. เป็นการแสดงความกตัญญู อีกทางหนึ่งที่ลูกหลานจะต้องทำให้บรรพชน ซึ่งคนปัจจุบันมองข้ามและไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และลืมไปว่าหลายสิบปีที่เกิดมาพ่อแม่ทำให้เราแค่ไหน กลัวความลำบากต้องไปไหว้ เสียเงินทองทรัพย์สิน เสียเวลา และสุดท้ายตระกูลหมดสิ้นในรุ่นถัดไป หรือไม่มีให้สืบทอดอีกต่อไป

ข้อควรระวัง
• ที่ถมไม่มีสภาพตกแต่งเกิน80%
• ที่เคยมีคนฝังและไม่ดียกเลิกขุดออกไปละว่างเปล่า  ถ้าไม่มีทำพิธีกรรมให้เรียบร้อยถือว่าไม่ดี
• ที่ที่มีรูปทรงหินแปลกประหลาดอยู่ใกล้ ไม่ได้สัดส่วนรูปร่าง แหลมคม ลายหยาบ
• ที่มีกลิ่น เสียง ชัยภูมิ ที่แปลกๆ หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีส่งถึง ที่นำ้ซึมใต้ดิน เข้ามาถึง
• ที่ใกล้รังปลวกใหญ่ มีรากไม้ชอนถึง

image
  รูปภาพการบรรยาย เรื่องสุสาน ทัศนศึกษา ณ เมืองซัวเถาประเทศจีน
image
  รูปภาพพานักเรียนศึกษาดูงาน ณ ประเทศจีน
 
 

  แท้ที่จริงแล้วนั้น เคล็ดลับการทำสุสานทั้งหมดนั้นล้วนมาจากจีนทั้งหมดทั้งสิ้น โดยเฉพาะที่เมืองซัวเถา ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดที่เยอะที่สุดในตอนนี้ ที่ดำรงรักษากันต่อเนื่องมา บางตระกูลสุสานอายุเกิน 800 ปี ตั้งแต่สร้างเมือง ทำให้ทุกวันนี้ลูกหลาน 25-30ชั่วอายุคน ก็ยิ่งไปไหว้เพื่อช่วยเหลือกัน บางสายตระกูลลูกหลานของบรรพชน มีจำนวนมากถึงสองแสนคน ทั้งที่อาศัยอยู่ภายในประเทศและต่างประเทศ ก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากชัยภูมิที่ส่งเสริมทั้งสิ้น ส่วนประเทศไทยนั้นปัจจุบันก็มีคนจีนเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บรรพบุรุษเข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่ไทยตั้งแต่อดีต ก็จะมีความเชื่อเรื่องสุสานเหมือนกัน แต่บางตระกูลก็จะยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเท่าที่ควรนัก ซึ่งจากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนั้น สุสานถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างมาก ๆต่อครอบครัวและบรรพชน ลูกหลานซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับลูกหลานภายในอนาคต เป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถกำหนดชีวิตของสมาชิกในตระกูลนั้น ๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นจะต้องศึกษาอย่างแท้จริงและปรึกษาผู้รู้หรือชินแสผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญอย่างยิ่ง 

เก็บมาเล่า


 

 

  ต้นตระกูลของผมนั้น คือ แซ่เตี๋ย 赵氏 อากงท่านคือรุ่นที่ยี่สิบสามของต้นตระกูลเตี๋ย   ท่านมาได้เจ็ดสิบปี ผมเป็นหลานรุ่นที่ยี่สิบห้าถือเป็นรุ่นที่สองที่เกิดที่เมืองไทยคุณพ่อท่านเกิดที่ไทย อาม่าท่านเล่าว่าตอนท่านแต่งงานไม่นาน อากงได้ข้ามาที่ไทยสร้างฐานะครอบครัว สมัยก่อนการมาด้วยเรือสำเภา เสื่อผืนหมอนใบ อาม่าท่านอยู่ดูแลอาเหล่าม่าแม่ของอากงอีกที ซึ่งสมัยก่อนจีนมักจะสร้างเขื่อน อ่างเก็บนำ้และมักจะเวนคืนที่ดิน สุสานรอบ ๆถ้าแจ้งแล้วไม่ย้าย รัฐบาลก็จะขุดทิ้งออกไปผู้ใหญ่ในหมู่บ้านรีบมาแจ้งกับอาม่า ว่าสุสานเหล่ากงรุ่นยี่สิบสอง ให้รีบไปย้ายออกรัฐบาลจะเอาที่ดินคืน ด้วยความที่อาม่าอายุยังไม่มากก็ได้รีบไปปรึกษาหาความรู้กับญาติผู้ใหญ่ที่มีความรู้ ท่านเล่าว่ามีสินแสท่านหนึ่ง แซ่ก๊วย อยู่ที่เตี่ยเอี้ย ให้รีบไปเชิญมา อาม่ารีบเดินทางไปพบตามคำแนะนำ ก๊วยสินแสท่านอายุนั้นมีอายุร่วม 80 ปีแล้ว ท่านได้เห็นความตั้งใจของอาม่า ที่เป็นลูกสะใภ้แต่มีความตั้งใจขนาดนี้ ทั้งเดินเท้าข้ามอำเภอมาหาท่าน  ท่านก็รับปากว่าตั้งใจจะช่วย

  การหาที่ดินในตอนนั้นอาม่า เล่าว่าต้องใช้เกี้ยวมีคนมาช่วยหาพาท่านขึ้นลงเขา จนสามารถกำหนดจุดที่จะทำได้ ( ฮวก 穴 หลุม ) ตำแหน่งที่กำหนดนั้นถือว่าต่ำมาก เพราะฉะนั้นจึงต้องออกแบบป้ายจุดที่กำหนดให้ตรงกับกลางยอดเขาพอดี ซึ่งบนยอดมีหินก้อนใหญ่อยู่บนสุดพอดี จุดนั้นเรียกว่า主星  ป้ายที่ทำต้องสูงกว่าปกติถึงจะรับพลังจากยอดได้รวดเร็ว  ด้วยความที่อาม่าท่านดูแลเป็นห่วงสินแสที่อายุมากเป็นอย่างดี  ท่านเห็นว่าอาม่าเป็นคนดี จึงบอกว่าให้เตรียมก้านไม้ขีดที่ยาวมากไว้นะ  “ตอนจุดตะเกียงก่อนฝังต้องจุดไม้ขีดให้มากที่สุด” ท่านวางไส้ตะเกียง ไว้รอบสิบสองอัน  อาม่าท่านจุดไ้ด้สิบอันพอดี ( 灯 丁) ตะเกียงเสียงสอดคล้องคำว่า “เต็ง”ที่แปลว่าลูกชาย เพราะฉะนั้น สินแสบอกอาม่าว่าต่อจากนี้จะมีทายาทรุ่นถัดไปสิบคนขึ้นไป อาม่าท่านได้ฟังก็ดีใจแต่ไม่คิดว่าเรื่องอนาคตข้างหน้านั้นจะเป็นอย่างไร  ซัวก่อนนั่งเต็งจุ้ยก่วงไช้(山管人丁水管财) หลังจากนั้นมาอาม่าก็ได้มาไทย และตั้งรกรากอยู่ที่นี่ มีลูกหลานที่งอกเงยออกมาเป็นตระกูลใหญ่อีกสามครอบครัวนับได้ถึงสิบสองคนพอดี  มีลูกหลานก็จะก่อเกิดโชคลาภ  ซึ่งคำทำนายนี้เป็นจริงอาม่าจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

สุสานฮกกีของอาม่า
  ตอนหาที่ทำสุสานนี้ อาม่าให้ความสำคัญมาก ๆ เชิญสินแสทั้งไทยและต่างประเทศ คนมีความรู้มาช่วยกันเฟ้นหาที่ดีที่สุด เพราะถ้าหาแล้วไม่ดีผลจะตกกับลูกหลานรุนแรงก็อาจจะต้องขุดมาและหาที่ฝังใหม่ซึ่งนี่ถือว่าสำคัญมาก ๆ หน้าที่นี้อาม่าให้ผมไปดูแลติดตามเรามีไปหาที่ซัวเถาต้นตระกูลแต่ลูกหลานทั้งหมดอยู่ที่ไทย สุดท้ายลงความเห็นว่าจะทำที่ไทย เพื่อลูกหลานได้ไปกราบไหว้ได้สะดวกและดูแลการก่อสร้างได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเมืองไทย มีที่ ชลบุรี บ้านบึง ศรีราชา เขาพระ ภูเขาที่ทอดยาวและสวยงามระยะทางไม่ไกลเกินไปจากกทม. ทำให้ มีคนไปหาที่ชลบุรีเยอะมาก ๆ จุดหลักที่เราเลือกหานั้น เราได้เดินทางไปจุดดี ๆสวยๆซึ่งก็มักจะมีคนจับจองหมดแล้ว ร่วมหลายสิบปีมานี้ทุกวันมีคนไปหาที่ชลบุรีตลอด บางที่เปิดให้คนจับจองในชลบุรี บางหลุมเคยมีคนฝังไม่ขุดออก หรือถมที่มาใหม่ต้องดูดีดี ซึ่งตลอดเวลาที่หาผมได้เจอมาทุกรูปแบบ  ซึ่งจังหวัดราชบุรี  ก็มีเขาที่ขึ้นชื่อ นั่นคือเขาสิงโต และเขาช้าง ซึ่งมีชัยภูมิที่สวยมาก รูปลักษณ์ภูเขาตามรูปแบบนี้จริง ๆ ลานพื้นที่ตำแหน่งถือว่าสมบูรณ์แต่ทิศทาง ฮุงกิม นั้นไม่สอดคล้องกับปีเกิดก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งที่แถบนี้ถือเป็นที่ที่ดีอีกจุดหนึ่ง เหมาะสำหรับลูกหลานที่รับราชการ ข้าราชการใหญ่ อาชีพต่างประเทศ  นอกจากนี้จังหวัดกาญจนบุรี ก็มีจุดชัดเจน คือ บริเวณเขาเจ็ดดาวบริเวณนี้คือชัยภูมิที่เหมาะสำหรับเป็นทหาร ขุนพล กำนัน มาเฟีย ข้าราชการท้องถิ่น  หลังพิงเขาเจ็ดดาวมีเจ็ดยอดพอดี ด้านหน้าหันไปรับกับแม่นำ้ที่ยาวและใหญ่มีอ่างเก็บนำ้มาดักเก็บหลัง ภูเขารอบ ๆล้อมชัดเจน  ตรงข้ามไปมีเขาอีกชั้น ถือเป็นชัยภูมิที่ดีแต่จุดที่ดีก็มักจะมีคนไปทำแล้ว จุดที่เราต้องการเจ้าของที่นั้นไม่ยอมขาย
 
  สุดท้ายเราเลยมาเลือกที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งจังหวัดสระบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีภูเขาเยอะมากจังหวัดหนึ่งแต่ที่ใกล้ ๆก็มักจะมีคนฝังเยอะเกินไป  อีกจุดหนึ่งมักจะมีการระเบิดภูเขาและถ้าเราได้ในจุดที่ใกล้การระเบิดภูเขาด้านหน้าหรือด้านหลังก็จะส่งผลไม่ดีทั้งนั้น  ซึ่งหลายจุด พออนาคตไปเจอแบบนี้ต้องย้ายสุสานกันทั้งสิ้น ถ้าไม่ย้ายก็มักจะมีปัญหาตามมาในไม่ช้าก็เร็ว   สระบุรีพลังภูเขาถือว่าสมบูรณ์มาก ๆ ด้วยรูปลักษณ์ ชัยภูมิเขาล้อมรอบเป็นแอ่งกระทะ จุดที่เลือกเลยต้องมีนำ้ถึงจะดีที่สุดซึ่งอยู่ที่มูลนิธิฮูลิน ซึ่งตำแหน่งรับกับกลางยอดเขาพอดี แขนซ้ายทอดยาวไกลสี่ชั้นและโอบเข้า แขนขวาโอบอุ้มเข้ามาพอดี ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ เมื่อพอตอนฝนตกหนักเราก็เจาะจงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อมาดูกระแสนำ้ของที่ก้อนนี้ ซึ่งพบว่ามีนำ้ไหลมาจากสองฝั่งซ้ายขวาและมารวมกันด้านหน้าของที่ดินกักเก็บพลัง และค่อยๆรวมกับสระนำ้ด้านหน้าโดยที่ฝนตกหนักแค่ไหลดินก็ไม่ไหล และไม่ท่วมที่นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก เมื่อได้ตามนี้ก็ได้ทำการกำหนดฮุงกิม (องศา)เพื่อให้สอดคล้องกับปีเกิด และดวงเพื่อเสริมให้อาม่า ร่างกายแข็งแรง อายุยืน และดูฤกษ์ที่ดีที่สุดในรอบสี่ปี ซึ่งตรงกับปลายปีเถาะพอดี ทุกอย่างได้มีการเตรียมการอย่างดีที่สุด ซึ่งในการสร้างนั้นสิ่งที่กลัวที่สุดคือวันหนึ่งถ้าพื้นแตกหรือมีรอยร้าวเกิดขึ้น ต้องรีบไปแก้ไข แม้แต่บ้านปัจจุบันส่วนใหญ่ยังเป็นสุสาน เรายิ่งต้องไปเฝ้าดูแลเป็นพิเศษ โครงสร้างในอดีตมักจะผูกไม้ไผ่อีกชั้นนึง ปัจจุบันใช้เหล็กเส้นมัดเพื่อรองรับนำ้หนัก  ถึงขั้นลงเสาเลยก็มีแต่คิดว่าไม่จำเป็น  การทำโครงที่ดีควรตากฝนหนึ่งฤดูเพื่อให้ฐานรับนำ้ รับนำ้หนักและแรงกด ดูการทรุดตัวจนถึงทำหินขัดหรือปูหิน ต่อไปโอกาสที่จะเกิดปัญหาตรงนี้ก็จะหายไป
 
  การเลือกป้ายสีหิน ขนาดหิน การแกะสลัก ต้องพิถีพิถัน ซึ่งของของอาม่านั้น ขนาดต้องการแกะสั่งพิเศษขนาดป้ายหินชิ้นเดียวใหญ่กว่าคนตอนทำต้องใช้เครนมาช่วยตั้ง เรานอนเฝ้าจนตั้งเสร็จและพอถึงอีกวันก็ได้นำหล่อแกสองอันมาวัดอีกรอบเพื่อกันการผิดพลาด องศานี่ห้ามพลาดเลยโดยเด็ดขาด ปัจจุบันแทบไม่มีใครตั้งใจทุ่มเทแบบผม ซึ่งสิ่งที่ได้มาคุ้มค่ามาก ๆ อาม่าของผมท่านสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นสีหน้านำ้เสียงตัวมีพลังมากกว่าแต่ก่อนสามารถเดินทางไปประเทศจีนทุกปีได้ สามารถจำวันเดือนปีเกิดของลูกหลานทุกคนได้อย่างแม่นยำ  ตระกูลเกิดหลานขึ้นใหญ่เกือบทุก ๆปีติดต่อกันโดยไม่ขาดสายครอบครัวมีที่ดินเพิ่มขึ้นหรือ มีการขึ้นบ้านใหม่ติดต่อกันตลอดทุก ๆปีไล่ๆมาตลอด  นี่คือ การรู้จักทุ่มเทในการเฟ้นหาชัยภูมิฮวงจุ้ยที่ดีให้แก่ตระกูล สิ่งดี ๆก็จะตกกับลูกหลานอย่างถาวร มากกว่าเราเหลือเงินทองให้ลูกหลาน เพราะพลังนี้จะส่งเสริมและเพิ่มพูนตลอดไป  ผมมีเวลาว่างก็จะมักจะขึ้นไปรับพลังนั่งสงบจิตใจและ นี่คือ ขุนเขาขุมทรัพย์ที่สามารถเกื้อหนุนลูกหลานให้ได้ดีตลอดไป
“ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะกำหนดชีวิตของตัวเราได้”
 命运就是在你选择走的路
สุดยอดฮวงจุ้ยประเทศไทย
พิธีไหว้ขอเจ้าที่เปิดที่ 开工大吉
การไหว้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ก่อนการก่อสร้างจะช่วยให้งานก่อสร้างราบรื่น 海大师 开工大吉
寻龙宝地 海大师 真头龙
สุสานหัวมังกร สุดยอดชัยภูมิ หลังเขาหน้าน้ำ โดย อาจารย์ไฮ่ 海大师 สร้างที่เมืองซัวเถา 海大师寻龙

 

 
ฮวงจุ้ยมงคล ตระกูล张 แซกีมงคล ฮกกี เสริมบารมี 
 แซกีที่ดี สุสานมั่นคง มีพลังงาน ส่งเสริม ให้สุขภาพแข็งแรง ลูกหลานมั่นคง ฐานะมั่นคง เจริญรุ่งเรือง ตลอดไป ทำเล ชัยภูมิ ทิศทางพิธีกรรม ฤกษ์ยามต้องสัมพันธ์กัน ทุกอย่าง โดยอาจารย์ที่เชี่ยวชาญ 海大师 อ.อัครจิรัชญ์ Haidashi

ผลงานของเรา

รูปการทำสุสานและแซกีเสริมดวง
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้